วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

ตะลุยหนองคาย ตอน เดินชิลริมฝั่งโขง แวะชิมอาหารชื่อดัง


และแล้วก็มาถึงบทความสุดท้ายของทริปตะลุยหนองคายนี้แล้ว 
ในบทความตะลุยหนองคายตอนสุดท้ายนี้เราจะเดินทางไปเยี่ยมชมฟาร์มจระเข้เปิดใหม่ 
จากนั้นก็เดินทางไปริมแม่น้ำโขงเยี่ยมชมตลาดท่าเสด็จ ตลาดริมฝั่งโขงของเมืองหนองคาย และสุดท้ายไปทานอาหารเที่ยงที่ร้านแดงแหนมเนืองร้านอาหารเวียดนามชื่อดังของที่นี้ครับ


หลังจากที่เราเดิมชมในเทวสถานแก้วกู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อซึ่งใกล้ๆกันนั้นก็มีฟาร์มจระเข้ใหม่ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดได้ไม่นาน(มั้ง) ไหนๆก็ผ่านมาแล้วเลยถือโอกาสแวะเข้าไปเสียหน่อย


หลังจากจอดเจ้าสองล้อกันเรียบร้อยแล้ว ก่อนเข้าไปต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อนน่ะครับ
ราคาบัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 50 บาท และสำหรับเด็กน่าจะ 30 บาทครับ


หลังจากซื้อบัตรเข้าชมเรียบร้อยแล้วเดินเข้าไปกันเลย


มีป้ายบอกทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมครับ


บริการห้องพักกำลังก่อสร้างอยู่ครับ น่าเสร็จเร็วๆนี้


ข้อควรระวังในการเข้าชมฟาร์มจระเข้ ควรปฎิบัติอย่างเคร่งครัดครับผมเพื่อความปลอดภัย


จระเข้ตัวเล็กสตาฟมาต้อนรับก็เข้าชม

พอเข้ามาทางจุดแสดงโชว์จระเข้ ทางฟาร์มกำลังแสดงโชว์อยู่พอดีเลย
(โชคดีแล้วจะได้ไม่ต้องรอรอบต่อไป : ) )


ดูกันแบบติดขอบรั้วกันเลยทีเดียว


พี่จระเข้โชว์กล้ามท้อง


คุณแพรขอโชว์การโยนเหรียญเข้าปากพี่จระเข้
(แต่น่าเสียดายไม่เข้าเลยไปอยู่บนหัวพี่จระเข้ซะส่วนใหญ่)


พี่ๆที่แสดงโชว์กำลังเอาเหรียญออกจากปากพี่จระเข้ครับ


หลังจากการแสดงโชว์จบแล้ว ก็สามารถเข้าไปถ่ายรูปกับจระเข้ได้น่ะครับ


ตอนแรกนึกว่ามีแค่สองตัวในบ่อการแสดง ที่ไหนได้มีญาติพี่น้องพี่จระเข้ซ่อนอยู่ริมบ่ออีก

หลังจากที่ชมการแสดงจบแล้ว ตอนแรกว่าจะไปชมบ่อเพาะจระเข้ที่อยู่ด้านในซะหน่อย
แต่ดูเวลาก็เลยเที่ยงมามากแล้ว เลยอดเข้าไปชมเลย T_T
เพราะต้องรีบกลับขอนแก่นก่อน 5 โมงเย็น
เราเลยออกเดินทางไปสถานที่ต่อไปกันเลย ซึ่งก็คือตลาดท่าเสด็จริมฝั่งโขงนั้นเอง
ถนนเส้นในนี้ค่อนข้างมีรถมากทั้งรถคนในพื้นที่ รถนักท่องเที่ยว และรถจากประเทศเพื่อนบ้าน
ทำให้การขับขี่ต้องระวังกันนิดนึง


จากการที่สังเกตุรถของประเทศเพื่อนบ้านเรามีแต่รถดีๆทั้งนั้นเลย

หลังจากจอดเจ้าสองล้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินเข้าไปในตลาดท่าเสด็จ
ในตลาดท่าเสด็จนี้มีของค้าของขายอยู่มากมายตั้งแต่สักเบือยันเรือรบเลยทีเดียว
มาดูกันเลยครับผม


ภายในตลาดท่าเสด็จครับผม มีตั้งแต่....


ร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย


ร้านรองเท้า กระเป๋าหนัง


ร้านของเล่นเด็ก


ร้านของใช้สำหรับนักเดินป่า


ร้านเครื่องประดับสวยๆงามๆ


ร้านสิ่งทอผ้าไหม


และร้านขายของสัพเพเหระ อื่นๆ


โซนของกินก็มีให้เลือกมากมายน่ะครับ


ตรงนี้น่าจะเป็นด้านหน้าของตลาดท่าเสด็จ(มั้ง)ครับ


มีจุดชมวิวด้วย เข้าไปดูกันดีกว่า


ถึงแล้วท่าเสด็จ สุดเขตแดนที่เมืองหนองคาย

ตรงจุดนี้มีมุมที่ทางตลาดท่าเสด็จขัดไว้ให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันอยู่หลายตุดเลยทีเดียว
ซึ่งแต่ล่ะอย่างที่นำมาจัดนั้นเป็นอุปกรณ์โบราณหาดูได้ยากครับผม


คุณแพรกับสองล้อครับผม


ฮาโหลวๆ




ตู้ทิ้งหนังสือที่ ๑ 


ณ.ตลาดท่าเสด็จ


มีสินค้าพื้นเมืองขายด้วยน่ะครับ 


ฮาโหลวๆ ด้วยคนครับผม


โทรศัพท์ยุคโบราณหาดูได้ยากในปัจจุบันนี้


ถึงแล้วตลาดท่าเสด็จ หากจะไปชมบั้งไฟพญานาคต้องไปอีก 45 กิโลเมตร น่ะครับผม


ร้านภาพถ่ายโบราณๆครับผม มีภาพถ่ายในยุคก่อนๆมากมายครับผม


โฆษณากล้องถ่ายภาพยนตร์ยุคบุกเบิก


โต๊ะเขียนไปรษณีย์โบราณครับผม


ณ.ตลาดท่าเสด็จ 


คำคมขำๆเล็กๆน้อยๆครับผม


มาดูแม่น้ำโขงอันงดงามบ้างครับ


ริมแม่น้ำโขงนั้นมีร้านอาหารบรรยากาศดีอยู่หลายแห่งครับ


ไกลๆนู้น จะเห็นสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ครับผม


ถึงแล้วครับร้านแดงแหนมเนืองครับผม 
แต่ฝั่งติดแม่น้ำโขงนี้เป็นหลังร้านน่ะครับไม่สามารถเข้าได้ครับผม


เดินอ้อมออกมาถนนริมโขงเพื่อเข้าไปด้านหน้าร้านครับ


ถึงแล้วหน้าร้านแดงแหนมเนือง
ภายในร้านนั้นจะแบ่งออกเป็นสองโซนคือ โซนด้านในจะเป็นห้องแอร์ครับ
ส่วนด้านนอกจะเป็นแบบรับลมริมฝั่งโขงครับผม


จานและน้ำจิ้มแหนมเนืองมาเตรียมพร้อมก่อนเลย
ขนาดยังไม่ได้สั่งอะไรเลยน่ะเนี่ยะ


เมนูมาแล้ว
หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยแล้วไม่นานนักก็ทยอยมากันอย่างรวดเร็ว


ปอเปี๊ยะทอด


กระยอสด


ชุดแหนมเนือง(ชุดเล็ก)ครับผม


แหนมเนืองครับ


อาหารมาครบแล้วครับผม อาหารเวียดนามจะประกอบด้วยผักเป็นส่วนใหญ่ครับ


อาหารมาครบแล้วทานขอทานเลยแล้วกันครับ


หลังจากทานอาหารคาวกันเรียบร้อยแล้ว ก็ต่อด้วยของหวานคือทับทิมกรอบครับผม


ราคาอาหารมื้อนี้ 325 บาทครับผม 


รถสามล้อหน้าตาแปลกๆนี้เรียกว่า Skylab ครับ พบเห็นได้มากในหนองคายนี้

หลังจากเดินเที่ยว ซื้อของฝาก และอิ่มท้องแล้วเวลาก็ปาไปบ่ายสองครึ่งแล้ว
จึงเดินทางกลับไปเอาของที่ฝากไว้กับทางรีสอร์ทครับผม
เสื้อคลุม รองเท้าแห้งพอดี คุณป้าก็เก็บของเราไว้ในเค้าท์เตอร์เป็นอย่างดี
รบกวนมามากแล้วขนอุปกรณืออกมากองไว้ก่อนเลยแล้วกัน


อุปกรณ์พร้อม สัมภาระพร้อม เตรียมออกเดินทางกลับกันได้ครับผม
ก่อนออกก็ได้ไปลาและขอบคุณคุณป้า คุณป้าก็อวยพรให้พวกเราเดินทางปลอดภัย เอาล่ะเดินทางได้!
ออกจากที่พักก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงครับผม

และแล้วการเดินทางทริปตะลุยหนองคายก็สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ครับ
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามารับชมครับผม
เจอกันใหม่ในทริปหน้าครับ
สวัสดีครับผม

ปล. ในการเดินทางกลับโชคดีมากครับที่ไม่เจอทั้งแดด และทั้งฝน
ปล2. หากต้องการชมบทความแรกของทริปนี้ครับ ตะลุยหนองคาย ตอน มุ่งหน้าสู่เมืองพญานาค